ผู้ใหญบ้านพา 4 พรานป่าชำแหละ ซากเสือโคร่ง มอบตัวแล้ว

ผู้ใหญบ้านพา 4 พรานป่าชำแหละ ซากเสือโคร่ง มอบตัวแล้ว

พรานป่าชำแหละ ซากเสือโคร่ง ล่าสุดเดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ เรียบร้อย อ้างเสือมากินวัวตายจำนวนมาก ไม่รู้ทำไง เลยนำมาเป็นเหยื่อล่อ จากกรณี เจ้าหน้าที่สายตรวจอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ออกลาดตระเวนพบกลุ่มพรานป่า 4 นาย ลักลอบชำแหละซากเสือโคร่ง 2 ตัว กลางป่าลึก บริเวณป่าห้วยปิล๊อก หมู่ที่ 4 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ห่างจากในเขตชายแดนไทย-พม่า ประมาณ 3-4 กิโลเมตร โดยขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ กำลังเข้าจับกุม แต่กลุ่มนายพรานสามารถไหวตัวทันและชิงหนีรอดไปได้หวุดหวิด

อย่างไรก็ตาม ภายหลังนายอานนท์ ถนอมวงษ์ ส.อบจ.เขต อ.ทองผาภูมิ ทราบข่าว

 จึงประสานไปยัง นายประสาท แดงเถิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ปิล๊อก เพื่อขอให้นำพาลูกบ้านที่กระทำผิดเข้ามอบตัว ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ใหญ่บ้านเป็นอย่างดี จนนำมาสู่การมอบตัว แต่ขอมอบตัวที่ สภ.ทองผาภูมิ แทน สภ.ปิล๊อก

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ และชุดปฏิบัติการทางน้ำอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้นำรถตู้เดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาที่บริเวณจุดตรวจเชิงเขาบ้านไร่ ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำเพิ่มเติม สำหรับผู้ต้องหาที่ลงมือยิงเสือโคร่งนั้นมีจำนวน 4 คน ไม่ใช่ 5 คน ตามที่เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนในครั้งแรกแต่อย่างใด

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ประกอบด้วย 1.นายกูกือ ยินดี ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย อายุ 37 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ 2.นายจอแห่ง พนารักษ์ อายุ 38 ปี ชาวบ้าน 39/พ หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 3.นายศุภชัย เจริญทรัพย์ อายุ 34 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และ 4.นายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ อายุ 30 ปี เป็นน้องชายของนายศุภชัย เจริญทรัพย์

เบื้องต้น 4 ผู้ต้องหาให้การว่า พวกตนมีอาชีพเลี้ยงวัว ช่วงประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมานั้น วัวของชาวบ้านและพวกตนถูกเสือโคร่งมากินและกัดตายไปร่วม 20 ตัว พวกตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงนำซากวัวที่ถูกเสือกัดตายมาเป็นเหยื่อล่อเสือออกมา ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ยิงเสือเป็นอาวุธปืนแก๊ป ส่วนอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด พวกตนยืมมาจากเจ้าหน้าที่ อปพร. เพื่อนำมาป้องกันตัวเท่านั้น

พ่อฆ่ายกครัว ปาร์ตี้วันเกิดลูก ทิ้งคำพูดสุดท้ายก่อนแขวนคอดับ

พ่อยิงเมีย ลูกเขย กลางงานวันเกิดลูกสาว ถามคำสุดท้าย อยากเป็นครอบครัวเดียวกันไหม ก่อนพ่อแขวนคอดับตามไปอีกศพ

ข่าวพ่อก่อเหตุฆ่ายกครัวในปาร์ตี้วันเกิดลูกสาวคนโต ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 12 ม.ค.65 ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ในต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี บริเวณชั้นล่างข้างโต๊ะอาหารพบศพ น.ส.มาลี อายุ 46 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ศีรษะ 1 นัด ใกล้กันพบศพ นายเอกชัย อายุ 34 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ศีรษะ 1 นัด และที่บริเวณราวบันไดทางขึ้นชั้น 2 พบศพ นายวินัย อายุ 52 ปี ใช้สายไฟผูกคอตัวเองเสียชีวิตติดกับลูกกรง ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 4 ปลอก และพบอาวุธปืนแบบแม็กกาซีน ขนาด 9 มม.วางอยู่ในห้องชั้น 2 เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

เคราะห์ดีเหตุการณ์ ปาร์ตี้เลือดนี้ มีผู้ที่สามารถเอาชีวิตรอดออกมาได้ 3 คน ทราบชื่อคือ น.ส.ศศินภา อายุ 26 ปี น.ส.ศศิณา อายุ 23 ปี ถูกยิงที่เท้าขวากระสุนทะลุได้รับบาดเจ็บ และ ด.ญ.เอ อายุ 8 ขวบ

โดย น.ส.ศศิณา เล่าว่า พวกตนกำลังกินข้าวฉลองวันเกิดให้กับน.ส.ศศินภา พี่สาว ส่วนนายวินัย ผู้เป็นพ่อ นั่งกินเหล้าอยู่ในห้อง และเคยมีปากเสียงเรื่องเงินกัน ซึ่งถูกพ่อทวงก็ให้ไปแล้ว แต่พ่อยังคาใจนายเอกชัย ซึ่งเป็นสามีของพี่สาว พอพี่เขยกลับมา พ่อก็เดินถือปืนออกมาถามว่า อยากจะอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันหรือเปล่า ตนก็บอกพ่อว่า “อยากอยู่” ทันใดนั้นพ่อก็หันปืนยิงพี่เขยและยิงน.ส.มาลี ผู้เป็นแม่ แล้วกราดยิงใส่รวม 4 นัด ตนโดนยิงเข้าที่เท้า จึงพาพี่สาวและหลานวัย 8 ขวบ วิ่งหนีออกมาร้องขอให้ชาวบ้านช่วยเหลือ

ด้าน นายวัชรากร อายุ 36 ปี พยานที่เป็นเพื่อนบ้านอยู่ติดกัน ทราบว่า ขณะนั่งกินข้าวอยู่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด หลังจากนั้นได้ยินเสียงร้องให้ช่วย และได้ยินคนในบ้านพูดว่า “พ่อยิงแม่ตาย” จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

ทั้งนี้ คาดว่าหลังก่อเหตุยิงเมียและลูกเขยแล้ว นายวินัย ได้เอาปืนไปเก็บไว้ที่ชั้น 2 จากนั้นใช้สายไฟมัดคอตัวเองติดกับราวบันไดทางขึ้นชั้น 2 เสียชีวิตเป็นศพที่ 3 ซึ่งปมเหตุน่าจะมาจากปัญหาเรื่องเงินในครอบครัว ที่ลูกเขยเป็นช่างติดตั้งแอร์ ส่วนนายวินัยอยู่ในช่วงตกงาน จึงเกิดความเครียดและก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ประกอบกับช่วงหลัง นายสุนันท์ เดือดร้อนเรื่องเงินและที่ดินซึ่งจำนองไว้ก็กำลังจะถูกยึด จึงมาตามมาทวงหนี้อีก แต่ผู้ตายยังไม่มีให้จนเกิดมีปากเสียงกันขึ้นอย่างรุนแรง จึงชักปืนยิงรัวใส่นางจินดาและนางพรทิพย์ซึ่งกำลังนั่งอยู่ด้วยที่โต๊ะรับแขกหน้าบ้าน

หลังยิงทั้งสองศพที่หน้าบ้าน นายสุนันท์ ก็ถือปืนวิ่งเข้าไปในบ้านยิง ด.ญ.นัยปพร ที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่จนตายคาจานข้าว ขณะที่พี่สาวและน้องชายที่นั่งอยู่ด้วยกัน วิ่งหนีออกไปทางประตูหลังบ้านได้ทัน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป