เวรกรรมมีจริง! ‘ตำรวจปลอม’ เรียก ‘ตำรวจจริง’ หวังไถเงิน สุดท้ายถูกจับ

เวรกรรมมีจริง! ‘ตำรวจปลอม’ เรียก ‘ตำรวจจริง’ หวังไถเงิน สุดท้ายถูกจับ

ตำรวจปลอม เรียกรถหยุด หวังไถเงิน แต่เวรกรรมมีจริง เจอรถของ ตำรวจจริง ไม่รอด ถูกจับ ตร.เผย มีผู้เสียหายจากตำรวจปลอมนับแสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง นำผู้ต้องหา 5 รายมาสอบปากคำ หลังจากที่พบว่าผู้ต้องหาได้แต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพยายามรีดไถเงิน แต่ผลปรากฏว่าผู้ต้องหาได้เรียกรถของ ส.ต.ต.ธีรดนย์ บัววิชัย และ ส.ต.ต.นรากร พี่พิมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รำมะสัก ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคนทำธุระ

โดยผู้ต้องหา แสดงบัตรห้อยคอคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

ซึ่งทาง ส.ต.ต.ธีรดนย์ ก็แจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นเดียวกัน ทำให้ชายทั้งสองคนกล่าวขอโทษ ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไป ทาง ส.ต.ต.ธีรดนย์ จึงประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.โพธิ์ทองให้ตรวจสอบ เนื่องจากท่าทีพิรุธ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถควบคุมตัวไว้ได้ พร้อมรถจักรยานยนต์และรถยนต์ปิ๊กอัพอีก 1 คัน

ส.ต.ต.ธีรดนย์ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนขับรถมากับน้องเพื่อมาตรวจโควิดที่ โรงพยาบาลโพธิ์ทอง จู่ๆ มีชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายตำรวจ ขับรถมาประกบข้าง ก่อนเรียกให้จอด และโชว์บัตรตำรวจให้ดูซึ่งตนเองก็เปิดกระจก ถามว่าเรียกทำไม ตนก็เป็นตำรวจเหมือนกัน ทำให้ชายสองคนที่เรียกตนทำท่าตกใจ ก่อนขอโทษขอโพย แล้วขับรถออกไป ตนเองเห็นผิดสังเกต จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทองให้ตรวจสอบ จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวไว้ได้

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ปรากฏว่ามีกลุ่มผู้เสียหายในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี และ จ.ชัยนาทกว่า 10 ราย เดินทางมายัง สภ.โพธิ์ทอง พร้อมแจ้งว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นกลุ่มที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตบทรัพย์ผู้เสียหายทั้งหมดไปคนละหลายหมื่นบาท

โดยผู้ต้องหาได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. และเชิญตัวของผู้เสียหายทั้งหมดไปเจรจาต่อรองที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โดยอ้างว่าผู้เสียหายเป็นกลุ่มบุคคลที่ทำผิดกฎหมายในเรื่อง พ.ร.บ.เงินกู้ และจะควบคุมตัวทั้งหมดไปที่กรุงเทพ ทำให้ผู้เสียหายหวาดกลัว

ก่อนที่จะเรียกเอาทรัพย์สินรายละ 20,000-40,000 บาท และให้โอนเข้าบัญชี ชื่อ นายอรรถพล หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งรวมแล้วมีผู้เสียหายที่โอนเงินให้กับชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนี้ นับแสนบาท

ขับกระบะปาดหน้า ฉุด น.ศ.สาวขึ้นรถข่มขืน เดนนรกอ้างอารมณ์ชั่ววูบ

ข่มขืนนักศึกษา ย่านปทุมธานี เดนนรก ขับกระบะปาดหน้าฉุด นศ.ม.ดัง ขึ้นรถข่มขืน รับสารภาพทำจริง อ้างเจอกันโดยบังเอิญแล้วเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ปัญญา อ่วมทองบัว อายุ 33 ปี “เดนนรก”ซึ่งก่อเหตุขับรถกระบะปาดหน้า นักศึกษาสาว มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ย่านปทุมธานี แล้วทำการฉุดขึ้นรถไปล่วงละเมิดทางเพศ ถูกจับกุมได้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานี ร่วมกันติดตามจับกุมตัว โดยไปรวบตัวได้ที่ บ้านพักไม่มีเลขที่ริมคลองมะดันซอยวัดบางกะดี ม.4 ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี

ก่อนหน้านี้ นักศึกษาผู้เสียหายได้ไปร้องเรียนกับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ว่าถูกคนร้ายใช้รถกระบะฉุดไปข่มขืน โดยเหตุเกิดช่วงดึกของวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา บริเวณคลองแอน 8 หลังวัดดอนใหญ่ ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ในเขตพื้นที่ของ สภ.ลำลูกกา

หลังจากเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุ กระทั่งติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว ซึ่งจากการสอบสวน เดนนรกรับสารภาพเป็นคนกระทำจริง ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ วันเกิดเหตุไปเจอผู้เสียหายโดยบังเอิญ ก่อนตัดสินใจขับรถปาดหน้าและฉุดผู้เสียหายขึ้นรถกระบะไปข่มขืนที่บ้าน จากนั้นก็ได้นำผู้เสียหายมาส่งที่ข้างทาง พร้อมทั้งนำโทรศัพท์ของผู้เสียไปด้วย และได้โยนทิ้งในคลองประปา จากนั้นตนเองก็ได้หลบหนีไป

สำหรับข้อหาของ นายปัญญา เดนนรก ประกอบด้วย ข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น

โฆษก บช.น. เผยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ฟัน ข้อหา ส.ต.ต. เพิ่มตามที่พูดไว้ ขอให้ประชาชนมั่นใจคดีโปร่งใสแน่นอน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.และโฆษก บช.น. ได้ออกมาแถลงความคืบหน้าของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขับบิ๊กไบค์ชน ชนพญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย ขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย จนเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า การตรวจสอบความเร็วรถจยย. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานครบแล้ว เช่น วัดระยะทาง วัดรอยเบรก จุดที่เกิดเหตุ คาดว่าผลการตรวจพิสูจน์จะได้เสร็จสิ้นวันที่ 28 ม.ค. เบื้องต้นยังไม่ต้องมีการจำลองเหตุการณ์

ส่วนกระแสจากสังคมที่อยากให้ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบความเร็วครั้งนี้ เพื่อความโปร่งใสนั้น ขอเรียนประชาชนว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับ และยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการบิดเบือน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป